ความสำเร็จอีกแง่มุมหนึ่งของเกมฟุตบอลคือการเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งให้ได้ในแต่ละเกมที่ลงแข่งขัน ผลพลอยได้ที่ตามมาคือชื่อเสียงและเกียรติยศต่างๆที่สโมสรได้รับหากว่าทำผลงานได้ดีในรายการที่เข้าร่วม ซึ่งการเก็บชัยชนะได้หมายถึงว่าทีมๆนั้นมีศักยภาพโดยรวมเหนือกว่าคู่แข่งและอาจเป็นทีมที่คว้าประโยชน์จากความผิดพลาดของคู่แข่งได้มากที่สุด ดังนั้น เมื่อพูดถึงการตัดสินว่าทีมไหนมีคุณภาพทีมดีกว่ากันคงจะไม่มีมาตรวัดไหนที่จะเที่ยงตรงไปมากกว่าการเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งได้ และวันนี้เรามีอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจคือทีมที่สามารถเก็บชัยชนะได้มากที่สุดในสโมสรฟุตบอลยุโรป 2 อันดับแรกในปีปฏิทิน 2022 ที่ผ่านมา อันดับ2 เรอัล มาดริด ชนะ 37 นัด เรอัล มาดริดของคาร์โล อันเชลอตติ คว้าสามแชมป์เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก, ลาลีกา และสแปนิช ซูเปอร์คัพมาครองได้ ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2021-22 พวกเขาเก็บชัยชนะได้สี่เกมและแพ้สามเกม ในสแปนิช ซูเปอร์คัพ พวกเขาเก็บชัยชนะได้สองเกม ในโกปา เดล เรย์ พวกเขาชนะสองเกมก่อนจะโดนแอธเลติกบิลเบาเขี่ยตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ทางด้านลาลีกาสเปนฤดูกาล 2021-22 ลงเตะไป 19 นัด โดยชนะ 12 แพ้ 3 เสมอ 4 ก่อนที่ลูกทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ จะออกสตาร์ทฤดูกาล 2022-23 ได้อย่างสดใส โดยเอาชนะไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 2-0 ในศึกยูฟ่า…

คาลิดู คูลิบาลี ปราการหลังของเชลซียืนยันว่าทีมของตนจะยังคงสามารถจบในท็อปโฟร์ได้ แม้ว่าพวกเขาจะฟอร์มย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมา       ทีมของเกรแฮม พอตเตอร์ รั้งอยู่อันดับเก้าในพรีเมียร์ลีกและต้องพยายามอย่างหนักในการเร่งคืนฟอร์มให้ได้หลังจากนี้เนื่องจากพวกเขามีแต้มตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังรั้งอันดับสี่อยู่ถึง 7 แต้ม พวกเขาเก็บชัยชนะได้นัดเดียวจาก 7 นัดหลังสุดในเกมลีกซึ่งเกมล่าสุดพวกเขาก็เพิ่งทำได้เพียงเสมอกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่ยากมากในการกลับมาคืนฟอร์มเพื่อคว้าโควต้าไป UCL แต่คูลิบาลีก็มั่นใจในความทะเยอทะยานสำหรับการกลับมาจบท็อปโฟร์ของทีม กองหลังชาวเซเนกัลบอกกับเว็บไซต์ของสโมสรว่า “มันจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ (จบท็อปโฟร์) แต่เราชอบความท้าทายนี้และเราเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ”       นัดต่อไปสำหรับพวกเขาคือการมาเยือนของแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ในวันพฤหัสบดีนี้ ตอนนี้ซิตี้รั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนนโดยตามหลังจ่าฝูงอย่างอาร์เซน่อล 7 แต้มหลังผ่านไป 16 เกม คูลิบาลียอมรับว่าการเผชิญหน้ากับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเป็นงานที่ยาก แต่พวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะในเกมนั้น  “เราต้องยอมรับมัน เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองและทำงานหนักต่อไป เราต้องพร้อมเผชิญหน้ากับแมนซิตี้ มันจะเป็นเกมที่ยาก แต่เราจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะในแมตช์นั้นเพื่อเดินหน้าต่อไป” โรเมลู ลูกากู ของเชลซี ต้องการที่จะอยู่ที่ อินเตอร์ มิลาน ต่อไป       โรเมลู ลูกากู ถูกส่งตัวไปให้อินเตอร์ยืมตัวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาหลังจากมีปัญหากับโธมัส ทูเคิ่ล…

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวเล็งคว้าตัว วิคตอร์ โอซิมเฮน ดาวยิงของนาโปลี หลังจากที่พวกเขาพลาดคว้าตัว โคดี้ กักโป กองหน้าจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ที่เพิ่งตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูลในช่วงเดือนมกราคมนี้ โอซิมเฮน วัย 23 ปี กลายเป็นหนึ่งในผู้จบสกอร์ที่อันตรายที่สุดในเซเรียอาตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาย้ายมายังนาโปลีจากลีลล์ด้วยค่าตัวสูงถึง 70 ล้านปอนด์ในปี 2020 และตั้งแต่นั้นมานักเตะชาวไนจีเรียยิงได้ 38 ประตูและทำอีก 12 แอสซิสต์จากการลงเล่น 76 นัดให้กับทีมในทุกรายการ เขามีจุดเด่นที่การเคลื่อนที่เร็วและการจบสกอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้โอซิมเฮนเคยอยู่ในรายชื่อนักเตะที่ปีศาจแดงอยากได้ไปเสริมทีมมาก่อนแล้วในช่วงตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีข่าวลือเชื่อมโยงกับหลายทีมใหญ่ของยุโรปแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจอยู่ที่นาโปลีต่อและกำลังมีส่วนสำคัญในการลุ้นแชมป์เซเรียอาของสโมสรในฤดูกาลนี้ จากการรายงานของแมนเชสเตอร์อีฟนิ่งนิวส์ล่าสุด ปีศาจแดงเตรียมที่จะเซ็นสัญญากับโอซิมเฮนให้ได้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งถูกลิเวอร์พูลปาดหน้าคว้าตัวหนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเขาอย่างโคดี้ กักโป ไปหมาดๆ แต่อย่างไรก็ตามยูไนเต็ดก็จะพบว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายนักที่จะคว้ากองหน้านาโปลีรายนี้ไปร่วมทีมเนื่องจากค่าตัวที่อาจมีมูลค่ามหาศาล โอซิมเฮน ไม่ปิดรับข้อเสนอจากแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ขอโฟกัสไปที่การพาทีมคว้าแชมป์ก่อน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโอซิมเฮนเคยบอกว่าเขาจะรับฟังข้อเสนอที่มีเข้ามาในช่วงซัมเมอร์หน้า และเขายังยืนยันว่าตอนนี้เขาจะโฟกัสเพียงอย่างเดียวคือการช่วยให้ทีมของเขาคว้าแชมป์เซเรียอาหลังสิ้นสุดฤดูกาล เขาบอกกับ Il Mattino ว่า “นี่คือหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในยุโรป และผมต้องการคว้าแชมป์ที่นี่ อนาคตคือช่วงเวลาหลังจากนี้ แต่ตอนนี้ผมจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อคว้าแชมป์ที่อิตาลี ตอนนี้มันยากที่จะคิดถึงสิ่งที่ดีกว่านาโปลีเพราะที่นี่คือหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุด…

ฟาบริซิโอ โรมาโน ผู้เชี่ยวชาญด้านการย้ายทีมระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจ เดนเซล ดัมฟรีส์ ปราการหลังของอินเตอร์ มิลาน อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ายูไนเต็ดอาจต้องกลับไปพิจารณาถึงรายละเอียดต่างๆอีกครั้งหลังจากการเรียกร้องค่าตัวดัมฟรีส์ของอินเตอร์ จากข้อมูลของ CalcioMercatoWeb สโมสรจากซีเรียเอได้ประเมินค่าตัวของกองหลังของพวกเขาเอาไว้ถึง 50 ล้านยูโร โรมาโนยังเสริมว่าชั่วโมงนี้แมนฯ ยูไนเต็ด เล็งเห็นความสำคัญของแดนหน้ามากกว่าดังนั้นพวกเขาอาจยังไม่เดินหน้าเต็มที่กับดัมฟรีส์ในเดือนมกราคมนี้ เขาบอกกับ GiveMeSport ว่า “ผมเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่งไปกับผู้เล่นตำแหน่งนั้น (แบ็คขวา) แต่ผมเห็นยูไนเต็ดส่งสัญญาณไปยังเดนเซล ดัมฟรีส์ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่พวกเขากำลังไล่ตามผู้เล่นอยู่ ซึ่งผมคิดว่ามันจะยากสำหรับพวกเขาที่จะเซ็นสัญญากับดัมฟรีส์ในเดือนมกราคมนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ยูไนเต็ดมีงบประมาณจำกัดเนื่องจากสถานการณ์ของตระกูลเกลเซอร์ และอีกกับความจริงที่ว่าพวกเขาต้องการกองหน้ามากกว่า” ก่อนที่สุดท้ายแล้วโรมาโน่จะสรุปว่า “ผมมองว่าดีลของดัมฟรีส์กับแมนยูไนเต็ดจะยังไม่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมนี้” การไล่ล่าดัมฟรีส์ของยูไนเต็ดเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่าอารอน วาน-บิสซาก้าไม่อยู่ในแผนการของเอริค เทน ฮากอีกต่อไป นั่นทำให้ดิโอโก ดาโลต์เป็นแบ็คขวาเพียงคนเดียวที่สโมสรเหลืออยู่ แม้ว่าไทเรลล์ มาลาเซียจะเคยเล่นในตำแหน่งนั้นมาก่อนก็ตาม ในขณะเดียวกันดัมฟรีส์ ซึ่งมักเล่นเป็นวิงแบ็คขวาให้กับอินเตอร์ อาจเข้ากับเกมรุกของเทน ฮาก ซึ่งเขาชอบใช้แผนที่จะส่งฟูลแบ็คเสริมเกมรุกอยู่เสมอ ดัมฟรีส์ยิงไปแล้ว 7 ประตูและจ่ายอีก 10 แอสซิสต์จาก 65 นัดในทุกรายการให้กับทัพงูใหญ่นับตั้งแต่ย้ายมาจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นในเดือนสิงหาคม 2021…

มีรายงานว่าลิเวอร์พูลได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว ควิชา ควารัตสเคเลีย แนวรุกของนาโปลีแล้ว แต่ทว่าตัวนักเตะเองกลับแสดงจุดยืนว่ายังไม่อยากย้ายออกจากสโมสรในอิตาลีช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ควารัตสเคเลีย วัย 21 ปี กลายเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอลยุโรปในฤดูกาล 2022-23 ที่กำลังดำเนินอยู่ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมนาโปลีจากสโมสรดินาโม บาตูมี่ ในราคา 9 ล้านปอนด์เมื่อต้นซัมเมอร์นี้เขายิงไปแล้ว 8 ประตูและจ่ายอีก 10 แอสซิสต์จากการลงสนาม 17 เกมในทุกรายการ ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นประกอบกับทักษะที่เยี่ยมเกินวัยทำให้เขาตกเป็นข่าวกับสโมสรดังในพรีเมียร์ลีกทั้งหงส์แดง และท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และจากการายงานของ Calciomercato ที่ระบุเพิ่มเติมว่าเรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็กำลังจับตาดูนักเตะรายนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของESPN ควารัตสเคเลียบอกว่าเขาต้องการอยู่ในถิ่นดิเอโก อาร์มันโด มาราโดน่า สเตเดี้ยมต่อไปตลอดทั้งฤดูกาลที่เหลือ ซึ่งทำให้บอร์ดบริหารของทีมรวมไปถึงกุนซืออย่าง ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ได้เตรียมต่อสัญญากับเขาออกไปเพื่อทำให้การตัดสินใจของบรรดาทีมต่างๆที่มีเข้ามาดูเป็นเรื่องที่ยากมากยิ่งขึ้น สำหรับค่าตัวของแข้งดาวรุ่งรายนี้ยังไม่มีออกมาเป็นทางการแต่จากการประเมินล่าสุดของTransfermarkt ควารัตสเคเลียมีมูลค่าประเมินที่ 50 ล้านปอนด์ แต่มูลค่าจริงๆในการซื้อขายอาจมากน้อยกว่านี้ก็ได้ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาในขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูลเคยกล่าวชื่นชมในความสามารถด้านเทคนิคการเล่นของเขา…

สื่อดังอย่าง L’Equipe รายงานว่า ซีเนอดีน ซีดาน อดีตผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด มีเงื่อนไข 3 ข้อ หากเขาจะตัดสินใจกลับไปคุมทีมในสโมสรใดสโมสรหนึ่งอีกครั้ง ซีดานเคยคุมเรอัลมาดริดอยู่สองครั้งพร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาทั้งหมด 2 สมัย และแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีก 3 สมัย กุนซือชาวฝรั่งเศสเข้ามาคุมมาดริดครั้งแรกระหว่างปี 2016 ถึง 2018 จากนั้นเขาก็กลับเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมอีกครั้งในปี 2019 ก่อนที่จะวางมือในอีก 2 ปีต่อมา ตั้งแต่นั้นมา ซีดานก็มีข่าวเชื่อมโยงกับการเข้ามาคุมทีมชาติฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามอนาคตของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กับฝรั่งเศสยังดูราบรื่นหลังจากที่เขาเพิ่งพาทีมคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก2022มาครองได้ ซึ่งการที่ทีมชาติฝรั่งเศสยังถูกคุมโดยเดส์ชองส์ต่อไป การหวนกลับคืนสู่ฟุตบอลระดับสโมสรก็อาจเป็นไปได้สำหรับซีดาน อย่างไรก็ตามจากรายงานได้ระบุว่า ซีเนอดีน ซีดาน มีเงื่อนไขบางอย่างที่เขาต้องพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทีมที่เข้าไปคุม ประการแรก เขาต้องการทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ในทุกรายการ ประการที่สอง สโมสรต้องมีโครงสร้างที่ดีซึ่งอาจหมายถึงความมั่นคงและความสามารถทางการเงิน และเงื่อนไขสุดท้ายคือเขาต้องการพลังการขับเคลื่อนทีมที่มาจากทีมงานเบื้องหลังรวมถึงตัวสโมสรเองที่จะคอยสนับสนุนทุกอย่างอย่างเต็มที่ โดยเมื่อดูจากเงื่อนไขที่ซีดานตั้งไว้ทุกข้อรวมกันแล้วจะเหลือเพียงไม่กี่สโมสรในยุโรปที่เข้าข่ายนั้น หลายคนมองว่าซีดานกำลังรอโอกาสที่จะเข้าไปคุมสโมสรอย่างปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอสเช), เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ,เชลซีและบาเยิร์น มิวนิค โดยที่สโมสรเหล่านี้ล้วนมีศักยภาพรอบด้าน แต่ปัจจุบันทุกสโมสรมีเหล่าผู้จัดการทีมทำหน้าที่อยู่แล้ว…

      ตามรายงานล่าสุดของ la Repubblica ระบุว่าเรอัล มาดริด อาจดึงเอา โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมโรม่ากลับไปคุมทีมอีกครั้งในปีหน้า โดยรายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ฟลอเรนติโน เปเรซ ต้องการให้กุนซือชาวโปรตุเกสกลับไปคุมทีมอีกครั้งหลังจากที่ คาร์โล อันเชล็อตติ จะหมดสัญญากับทีมในปี 2023 มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า มูรินโญ่กำลังพิจารณาอนาคตของเขาที่เอเอส โรม่า ซึ่งเขาทำงานมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ซึ่งสัญญาของเขากับยักษ์ใหญ่จากอิตาลีจะหมดลงในปี 2024 อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่อาจเลือกที่จะขอลาออกก่อนเวลาหนึ่งปีหากว่าเขาต้องการกลับไปคุมอดีตต้นสังกัดอีกคำรบ       ทางด้าน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ได้แจ้งไปยังมูรินโญ่แล้วว่าเขาพร้อมที่จะดึงตัวเขากลับไปที่สโมสร พร้อมกับเสนอแผนการที่เรอัลมาดริดต้องการขับเคลื่อนให้กุนซือชาวโปรตุเกสได้รับทราบ สำหรับโชเซ่ มูรินโญ่ กำลังทำผลงานได้ดีกับโรม่าในฤดูกาลนี้ เขาพาสโมสรขึ้นไปอยู่อันดับที่ 7 ของตารางกัลโช่ เซเรีย อา โดยเก็บได้ 26 แต้มจาก 14 เกม แบ่งเป็นจากชัยชนะแปดเกมเสมอสองเกมและแพ้สี่เกม ในขณะเดียวกันอันเชล็อตติก็กำลังพาทีมทำผลงานได้ดีเช่นกัน ปัจจุบันทีมของเขารั้งอันดับที่ 2 ในตารางคะแนนลาลีกาด้วยการมี 35 คะแนนจาก 14 เกม…