คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด มีโอกาสที่จะเข้าไปเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีมชาติบราซิลในปี 2023 โดยที่สมาคมฟุตบอลของบราซิลกำลังมองหาผู้จัดการทีมเพื่อเข้าไปทำงานแทนติเต้ที่ลาออก กุนซือชาวบราซิลลาออกจากตำแหน่งหลังจากพาทีมตกรอบฟุตบอลโลก 2022

ความคืบหน้าล่าสุดทีมชาติบราซิลสนใจให้อันเชล็อตติเข้ามาทำหน้าที่นี้ และกุนซือชาวอิตาลีก็พร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งทาง บรูโน่ อันดราเด้ นักข่าวชาวโปรตุเกสกล่าวว่าอันเชล็อตติต้องการคุมทีมมาดริดจนจบฤดูกาลปัจจุบันและจะพิจารณาความเป็นไปได้หลังจากนั้นเพราะสัญญาฉบับปัจจุบันของเขากับเรอัลมาดริดจะหมดลงในปี 2024 กุนซือชาวอิตาลีประสบความสำเร็จอย่างมากในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เขาใช้เวลา 2 ช่วงในฐานะผู้จัดการทีมยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา เขากลับมาคุมทีมอีกหลังโดยย้ายมาจากเอฟเวอร์ตันในเดือนกรกฎาคม 2021 และพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่สองเมื่อฤดูกาลที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อันเชล็อตติยังไม่เคยคุมทีมชาติมาก่อนและบางทีข้อเสนอนี้อาจท้าทายเขาโดยเฉพาะการที่เขาอาจจะรู้สึกอิ่มตัวในการทำทีมระดับสโมสร.
ลูก้า โมดริช กองกลางของเรอัล มาดริด เปรียบเทียบสโมสรของเขากับทีมชาติโครเอเชีย

โมดริช วัย 37 ปี กำลังมุ่งหน้าสู่รอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลก หลังจากโครเอเชียเอาชนะบราซิลด้วยการดวลจุดโทษ 4-2 หลังจากเสมอกันในช่วงต่อเวลา 1-1 เขาพาโครเอเชียสร้างเซอร์ไพรซ์ได้อีกครั้งหลังจากหักด่านบราซิลไปได้ซึ่งจอมทัพของสโมสรเรอัลมาดริดได้เปรียบเทียบทีมชาติโครเอเชียกับมาดริดก่อนที่จะลงเล่นเกมรอบรองชนะเลิศกับอาร์เจนตินาในคืนวันนี้ว่า
“ผมอาจพูดได้ว่าเรามี DNA เดียวกับเรอัล มาดริด เพราะเราเดินหน้าต่อไปจนจบ และไม่เคยยอมแพ้ ทุกคนมองไปที่ทีมใหญ่ๆ และเนื่องจากเราเป็นประเทศเล็ก ๆ จึงไม่มีใครสนใจเรา แต่เราไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น เพราะประเทศอื่น ๆ เป็นทีมเต็งและเราไม่เคยเป็นทีมเต็ง”
สำหรับฟุตบอลโลก2022 โครเอเชียมีความคล้ายคลึงกับการที่เรอัลมาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วโดยพิจารณาจากที่บางเกมพวกเขาเหมือนจะแพ้แต่ก็พลิกกลับมาเก็บชัยได้อย่างน่าทึ่งเห็นได้ชัดจากเกมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี้ในรอบรองชนะเลิศที่พวกเขาเปลี่ยนจากการตามหลังซิตี้ 5-3 พลิกกลับมาเป็นผู้ชนะด้วยสกอร์รวม 6-5 หลังจากต่อเวลาพิเศษ ซึ่งโครเอเชียก็กำลังมีบทบาทนั้น พวกเขาพลิกกลับมาตีเสมอบราซิลหลังจากที่เนย์มาร์ยิงพาทีมขึ้นนำในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก และโครเอเชียได้ประตูตีเสมอจากบรูโน เพตโควิช โดยเหลือเวลาอีกเพียง 3 นาที ก่อนที่จะชนะในการดวลจุดโทษในที่สุด