ลูก้า โมดริช และ คาเซมิโร่ อดีตเพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริด แลกเสื้อกันระหว่างพักครึ่งในเกมฟุตบอลโลกรอบก่อนรองชนะเลิศระหว่างทีมชาติบราซิลกับทีมชาติโครเอเชียที่สนาม Education City เมื่อคืนที่ผ่านมา
โมดริช , คาเซมิโร พร้อมด้วย โทนี่ โครส เป็นกองกลางที่น่าเกรงขามและเป็นผู้เล่นคนสำคัญในหัวใจแดนกลางของสโมสรเรอัลมาดริดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัยด้วยกัน อย่างไรก็ตาม คาเซมิโรตัดสินใจออกจากเมืองหลวงของสเปนในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพของเขา ในขณะที่โมดริชยังคงอยู่เป็นศูนย์กลางของทีมเช่นเดิมถึงแม้ว่าคาเซมิโรจะไม่อยู่ ในวัย 37 ปี เขายังคงเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลกและยังคงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของคาร์โล อันเชล็อตติที่เรอัล มาดริด ซึ่งความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างโมดริชและคาเซมิโร่ยังคงเหมือนเดิมดั่งที่หลายคนได้เห็นในช่วงพักครึ่งแรกในเกมที่บราซิลพบกับโครเอเชียในเกมฟุตบอลโลกเมื่อคืนที่ผ่านมา คาเซมิโรเดินตามหลังโมดริช ขณะที่ทั้งสองทีมเริ่มเดินลงอุโมงค์เพื่อพักเบรก เขาขอให้สตาร์ชาวโครเอเชียแลกเสื้อกับเขาก่อนที่ทั้งคู่จะทักทายกันเล็กน้อย

ลูก้า โมดริช และโครเอเชียผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลก 2022 หลังจากเก็บชัยเหนือบราซิล
เกมระหว่างบราซิลกับโครเอเชียไม่มีประตูเกิดขึ้นในช่วงเวลา 90 นาที จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษของครึ่งแรกเนย์มาร์จะมายิงประตูพาบราซิลออกนำไปก่อน อย่างไรก็ตามลูก้า โมดริชและทีมยังคงตั้งหน้าตั้งตาสู้และไม่ยอมแพ้ การทำงานหนักของพวกเขาถูกตอบแทนในความพยายามเมื่อ บรูโน เพตโควิช ยิงพาทีมตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 117 จนกระทั่งเกมลากยาวมาจนถึงช่วงดวลกันที่จุดโทษและเป็นโครเอเชียที่ยิงเข้าไปได้ทั้งสี่คนในขณะที่บราซิลยิงเข้าไปเพียง 2 คนจากการยิงจุดโทษ 4 ครั้ง ส่งผลให้โครเอเชียผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สองติดต่อกันหลังจากฟุตบอลโลกปี 2018 ซึ่งเกมต่อไปลูกทีมของกุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช จะเข้าไปเล่นเกมรอบรองชนะเลิศกับอาร์เจนติน่าที่ดวลจุดโทษชนะเนเธอร์แลนด์มาได้เช่นกัน