คริสเตียโน โรนัลโด เป็นผู้เล่นคนแรกที่เดินลงอุโมงค์หลังจากจบเกมที่โปรตุเกสชนะสวิตเซอร์แลนด์ 6-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก2022
เฟร์นันโด ซานโตส เน้นทุกอย่างในเกมนี้เป็นอย่างมาก และหนึ่งในนั้นคือการที่เขาตัดสินใจดร็อปโรนัลโดไว้ข้างสนามและส่ง กอนซาโล่ รามอส ลงเป็นตัวจริงให้ทีมในฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่แข้งดาวรุ่งจากเบนฟิก้ารายนี้จะสามารถทำผลงานแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวโดยเขาทำแฮตทริกได้ในเกมนี้อีกด้วย รามอสยิงประตูแรกในนาทีที่ 17 ก่อนที่เขาจะทำอีกสองประตูในครึ่งหลัง ทีมชาติโปรตุเกสได้อีกสามประตูได้จาก เปเป้, ราฟาเอล เกร์เรโร และราฟาเอล เลอาว
เกมนี้ คริสเตียโน โรนัลโด ถูกเปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 73 ของเกม และมีจังหวะที่เขายิงเข้าไปแล้วก่อนที่จะถูกจับล้ำหน้า ก่อนที่หลังจบเกมนักเตะทีมชาติโปรตุเกสจะเดินเข้าไปขอบคุณแฟนบอลในสนามหลังฟุตบอลโลก2022 อย่างไรก็ตาม คริสเตียโน โรนัลโด ตัดสินใจเดินลงอุโมงค์ทันที หลังจบเกมซานโตสพูดถึงการตัดสินใจดร็อปโรนัลโดในเกมนี้ เขากล่าวผ่าน talkSPORTว่า
“คริสเตียโนและรามอสเป็นผู้เล่นที่แตกต่างกัน ผมเองไม่มีปัญหากับกัปตันทีมชาติ เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว เขาเป็นแบบอย่างที่ดีของกัปตัน”
ทีมชาติโปรตุเกสเริ่มฝากความหวังไว้กับคลื่นลูกใหม่ มันจะส่งผลอย่างไรต่อ โรนัลโด หลังจากนี้
มรดกของ คริสเตียโน โรนัลโด ในฐานะนักฟุตบอลได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เขากำลังจะเป็นอีกตำนานผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของฟุตบอลอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม มีความจริงที่โรนัลโดกำลังเผชิญในฤดูกาลนี้และจากผลงานก็ดูเหมือนว่าทีมจะเล่นได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีโรนัลโดอยู่ในสนามเช่นเดียวกับกรณีที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของเอริค เทน ฮาก ชัยชนะ 6-1 ของโปรตุเกสเหนือสวิตเซอร์แลนด์แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าการไม่มีโรนัลโดก็ไม่ส่งผลกระทบถึงทีม ย้อนกลับไปในยุครุ่งเรือง โรนัลโดเป็นเหมือนทุกสิ่งสำหรับผู้จัดการทีมทุกคน
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ บรรดาผู้จัดการทีมได้ตัดสินใจไม่ใช้บริการของนักเตะวัย 37 ปีรายนี้อยู่หลายครั้ง จนเป็นเหตุที่ทำให้เราเห็นโรนัลโด้ได้รับโอกาสน้อยลงเนื่องจากปัจจัยสำคัญคืออายุของเขา อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าตกใจอยู่เล็กน้อยเนื่องจากช่วงเวลาของเขาดูเหมือนจะสิ้นสุดเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้วเขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่เลย
