หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมเก๋าของทีมชาติอุรุกวัย ออกมาตำหนิกรรมการและฟีฟ่า หลังจากที่ทีมของเขาตกรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลก 2022 ความคิดเห็นของเขามีขึ้นหลังจากการแข่งขันในกลุ่ม H นัดสุดท้ายโดยอุรุกวัยพบกับกานาในวันศุกร์ (2 ธันวาคม) เกมนี้อุรุกวัยเก็บชัยชนะไปได้ 2-0 อย่างไรก็ตาม นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับยักษ์ใหญ่จากอเมริกาใต้ เมื่อผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันปรากฏว่าเกาหลีใต้เอาชนะโปรตุเกสไปได้ 2-1 ทำให้เกาหลีใต้และอุรุกวัยมีแต้มเท่ากันที่สี่แต้มแต่ก็เป็นเกาหลีใต้ที่ผ่านเข้ารอบเนื่องจากยิงประตูได้มากกว่าจากสามนัดที่ผ่านมา

ในคืนที่มีเรื่องดราม่ามากมาย หลุยส์ ซัวเรซและอุรุกวัยมีโอกาสมากมายที่จะเปลี่ยนเป็นประตูแต่ก็ทำไม่ได้ และการตัดสินใจของผู้ตัดสินก็ดูสวนทางกับพวกเขาเช่นกัน โดยกรรมการปฏิเสธที่จะให้จุดโทษจากจังหวะที่ดาร์วิน นูเนซ และเอดินสัน คาวานีดูเหมือนจะถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ซึ่งทำให้หลังจบเกมมีผู้เล่นอุรุกวัยหลายคนโต้เถียงกับผู้ตัดสินในขณะที่เดินเข้าไปในอุโมงค์ มีรายงานเพิ่มเติมหลังจบเกมว่าหลุยส์ ซัวเรซ พยายามเดินเข้าไปพูดคุยกับกรรมการแต่ทางฟีฟ่าไม่อนุญาต ก่อนที่เขาจะออกมาตำหนิองค์กรและบอกกับ TeleDoce ว่า
“ผมเห็นผู้มีอำนาจหลายคนในฟีฟ่านักชมเกมข้างบน คำถามคือทำไมเกมนี้อุรุกวัยต้องได้รับผลแบบนี้ ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมหลายอย่าง และฟีฟ่าต้องออกมาให้คำตอบสำหรับเรื่องนี้” อดีตกองหน้าของบาร์เซโลนาและลิเวอร์พูลกล่าวเสริมเกี่ยวกับจังหวะจุดโทษที่เกี่ยวข้องกับนูเนซและคาวานี “ผมเห็นจังหวะที่ควรเป็นจุดโทษของคาวานี่ เพราะเขาถูกทำฟาวล์โดยกองหลัง ดาร์วินก็ชัดเจนเช่นกัน มันไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและเรากำลังต้องการคำตอบจากการตัดสินใจในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เกมนี้มีคณะกรรมการผู้ตัดสินและฟีฟ่าเข้ามาชมเกมหลายคน ดังนั้นพวกเขาต้องอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ทั้งหมด”
ชัยชนะเหนือโปรตุเกสของเกาหลีใต้ทำให้อุรุกวัยไม่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 ล่าสุดในปี 2018 หลุยส์ ซัวเรซและทีมผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนที่จะพ่ายต่อฝรั่งเศสในที่สุด
อะไรรออยู่ข้างหน้าสำหรับหลุยส์ ซัวเรซ?
หลายคนเชื่อว่าฟุตบอลโลก 2022 จะเป็นครั้งสุดท้ายของหลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งจะมีอายุ 39 ปีเมื่อฟุตบอลโลกครั้งหน้ามาถึงหากเป็นเช่นนั้นเกมเมื่อคืนจะถือว่าเป็นเกมสุดท้ายของเขาในฟุตบอลโลก หลังจากทำประตูได้ 7 ประตูและแอสซิสต์อีก 5 ครั้งในการแข่งขัน 16 นัด(สี่สมัย) ทั้งนี้เส้นทางค้าแข้งในระดับสโมสรของซัวเรซก็มีเส้นทางที่ไม่คาดฝันเช่นกัน หลังจากช่วงเวลาหกปีกับบาร์เซโลนา เขาย้ายไปร่วมทีมคู่แข่งตัวฉกาจอย่างแอตเลติโก มาดริดในปี2020 โดยกองหน้ารายนี้พาทีมใหม่คว้าแชมป์ลา ลีกาได้ในฤดูกาลนั้น
จากนั้นเขาก็ออกจากตราหมีในปี 2022 เพื่อเข้าร่วมสโมสร Nacional สโมสรในลีกอุรุกวัยและช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ Primera Division ในฤดูกาล2021-22 ซึ่งล่าสุดหลุยส์ ซัวเรซ ประกาศก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นว่าเขากำลังจะย้ายออกจากสโมสรชั้นนำของอุรุกวัย ดังนั้นคงต้องติดตามกันต่อไปว่ากองหน้าตัวเก่งจะไปที่ใดต่อไปในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้