การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่ล่าสุด เปาโล ซัมปอลลี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโดมินิกันประจำสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่าเลือกให้ทีมชาติอิตาลีเข้ามาเตะฟุตบอลโลกแทนอิหร่านในปีนี้
เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้อิหร่านกำลังประสบกับความวุ่นวายทางการเมืองโดยเฉพาะการประท้วงเกี่ยวกับสิทธิสตรีในประเทศ โดยกองกำลังความมั่นคงของอิหร่านมีการใช้อาวุธร้ายแรงเพื่อพยายามทำให้สถานการณ์สงบลง ซึ่งองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนแห่งอิหร่านที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในนอร์เวย์ออกมาคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 215 คนรวมถึงเด็ก 27 คนที่เสียชีวิตจากการปราบการประท้วง ท่ามกลางความไม่สงบนี้ซัมปอลลีจึงได้เขียนจดหมายถึงประธานฟีฟ่าอย่าง จานนี อินฟานติโน โดยระบุว่าตัวเขานั้นมีต้องการให้ฟีฟ่าถอดอิหร่านออกจากการแข่งขันฟุตบอลโลก2022 และเอาอิตาลีเข้ามาเสียบโควต้านี้แทน ใจความจดหมายนั้นระบุว่า

“เรียนประธานฟีฟ่า เป็นอีกครั้งที่โลกเรียกร้องจากการเป็นผู้นำของคุณในการตัดสิทธิ์อิหร่านจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ก่อนหน้านี้ทั้งคุณพร้อมด้วยอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้ร่วมกันยืนหยัดต่อสู้กับซูเปอร์ลีก และโลกของฟุตบอลไม่ควรถูกบดบังด้วยข่าวร้ายทางการเมืองที่ส่งผลกระทบถึงแฟน ๆ หลายพันล้านคนทั่วโลก เรื่องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งที่ทั้งคุณและชีคทามิม บิน ฮาหมัด อัลธานี กำลังทำได้สำเร็จและสวยงามอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ในสหประชาชาติและวอชิงตันกำลังตระหนักถึงความกังวลในเรื่องดังกล่าว ดังที่คุณทราบ เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวถึงการตอบโต้ด้วยความรุนแรงอย่างต่อเนื่องโดยกองกำลังของรัฐบาลอิหร่านที่มีต่อผู้ประท้วง”
นอกจากนี้ ซัมปอลลียังกล่าวถึงข้อจำกัดด้านการสื่อสารที่ส่งผลต่อการใช้โทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ อินเทอร์เน็ต และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงการที่ชาวอิหร่านจำนวนมากเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกควบคุมตัวระหว่างการประท้วงที่ปะทุขึ้นหลังการเสียชีวิตระหว่างการถูกควบคุมตัวของ มาห์ซา อามินี นักศึกษาวัย 22 ปี
ทางด้าน อันโตนิโอ กูร์เตียเรซ เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่าเขาได้ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เขาเรียกร้องให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยของอิหร่านหยุดใช้กำลังที่ไม่จำเป็นต่อประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ฟีฟ่าออกมาตรการต่ออิหร่านด้วย“ฟีฟ่ายังคงนิ่งเงียบในประเด็นนี้ และมันจะบ่อนทำลายจุดยืนอย่างต่อเนื่องเพราะฟีฟ่าไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ดังที่คุณทราบว่า สเตฟาโน่ โดเมนิคาลี ประธาน F1 ที่เป็นคู่หูของคุณได้ยกเลิกการแข่งขัน F1 Grand Prix ในมอสโกเนื่องจากเหตุผลและการแสดงจุดยืนทางการเมือง”