ลิโอเนล เมสซี่ จัดว่าเป็นดาวเด่น ฟุตบอลโลก ที่ฝีเท้าหาตัวจับยากคนหนึ่ง ทุกครั้งที่ลงสนามเขาสามารถสร้างความตื่นตะลึงให้ทุกคนที่ ดูบอลโลก และฝ่ายตรงข้ามเสมอๆ ชายผู้ทำให้โลกรู้ว่าฟุตบอลเขาใช้เท้าเตะ ไม่ต้องพูดมากหรือขี้โม้เขาเกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2530 ในโรซาริโอ อาร์เจนตินา พ่อของเขาชื่อ ฮอร์เก้ เมสซี่และแม่ชื่อซีเลีย พ่อเขาเป็นผู้จัดการโรงงานและแม่ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดธรรมดาๆ ตอนอายุแค่ 5 ขวบ เมสซี่เริ่มเล่นให้กับสโมสรท้องถิ่นแล้ว ในขณะที่เด็กส่วนใหญ่ยังกะโหลกกะลาร้องไห้ขี้มูกโป่ง พออายุ 8 ขวบที่เขาเล่นย้ายมาอีกที่
จนอายุ 11 ขวบ ความโชคร้ายมาเยือนเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นฮอร์โมนการเจริญเติบโตความบกพร่อง ทำให้มีส่วนสูงเพียง 169 เซ็นต์ต่างจากความสูงของฝรั่งโดยเฉลี่ยทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกด้อยค่าต่ำต้อยและเหมือนจะประกาศให้โลกได้รู้ว่า “อย่าเอาเรื่องแค่นี้มาหยุดกรูเว้ยยย!!” ตรงกันข้ามตอนนี้เขามีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม ไฟแห่งความกระหายบนเส้นทางนักเตะ และความฝันที่จะยิ่งใหญ่เทียบเคียง มาราโดน่า หรือเปเล่ มันทำให้สู้เด็กน้อยเมสซี่ตัวเล็กแต่ใจไม่เล็ก จึงสู้กับโรคร้ายอย่างไม่ย่อท้อ

ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเด่นที่ไม่ยอมแพ้โรคร้าย และโชคชะตา
เมื่อประธานสโมสรสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือเมสซี่โดยจ่ายค่ารักษาพยาบาล หลังย้ายไปสเปน เมสซี่เรียนที่สถาบันการศึกษาเยาวชนของบาร์เซโลนา ที่คน ดูบอลโลก จะต้องจำชื่อเขามันได้เริ่มต้นในปี 2000 เมื่อเขาเล่นให้กับทีมจูเนียร์ บันไดขั้นแรกในของเขา กระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคม 2005 ที่อัลบาที่เขาสร้างขึ้นประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด และยิงประตูในเกมอะลาลีฟวิ่งให้บาร์เซโลน่าได้ เขาได้สัญชาติสเปนใน กันยายน 2548 และประเดิมการเตะนอกบ้านครั้งแรกของเมสซี่ด้วยการฟาดแชมเปี้ยนส์ลีกกับอิตาลี สโมสรอูดิเนเซ่จาก 17 ลีก
เมสซี่ก็ทำผลงานจี๊ดได้ใจถึง 6 ประตู เป้าหมาย และความฝันอันสูงสุดของเมสซี่ในการทำประตูคือ เขาต้องไปฟุตบอลโลก และยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเทพหัตถ์พระเจ้าอยาก ดิเอโก้ มาราโดน่า ให้ได้ จนแฟนๆตามตั้งสมญาเหน็บแนมแกมประชดให้ว่าเมสซี่ โดน่าเลยทีเดียว ในเดือนกุมภาพันธ์ 27 2007 เมสซี่ลงเล่นนัดที่ 100 ให้กับบาร์เซโลน่า กับบาเลนเซีย CF ในฤดูกาลนี้เมสซี่ ตะบันไปถึง 16 ประตูและ แอสซิสต์ 13 ครั้งในทุกรายการ เรียกว่ายิงเป็นว่าเล่นเหมือน…teen…ติดรีโมท จนทำให้ปี 2009 เขาคว้ารางวัลโคปาเดลเรย์ครั้งแรกมานอนกอด ในฐานะผู้ทำประตูสูงสุด

ลิโอเนล เมสซี่ ราชสีห์ผู้ปราดเปรียว ยิ่งประสู่เส้นทางฝัน
แต่ความจริงยังเส้นทาง ฟุตบอลโลก ไม่จบแค่นั้น เขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลาลีกา และในแชมเปี้ยนส์ลีกจบฤดูกาลทำได้รวม 38 ประตูและ สถิติแอสซิสต์ 18 ครั้ง 2010 เป็นปีของแฮตทริกของเมสซี่ เขากลายเป็นผู้เล่นบาร์เซโลนาคนแรกที่ ทำแฮตทริกติดต่อกันในลาลีกาเมสซี่ยิง 47 ประตูและ 11 แอสซิสต์ในทุกรายการ ในรอบชิงชนะเลิศโกปา เดล เรย์ 2010 เมสซี่ก็ขึ้นทำเนียบผู้ทำประตูสูงสุดของการแข่งขันพร้อมกับ Cristiano Ronaldo ด้วย 7 ประตูที่เมสซี่ทำสำเร็จฤดูกาล 2010-11 และ 53 ประตู 24 แอสซิสต์ในทุกรายการรวมกันในฤดูกาล 2011-12 เขากลายเป็นราชสีห์สมชื่อและคำรามก้องด้วยความสะใจ
จากนั้นเขายังเป็นผู้ทำประตูให้ บาร์เซโลน่า อย่างเป็นทางการในการแข่งขันเขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกเพื่อทำคะแนน 5 ประตูใน แชมเปียนส์ลีกปี 2012 ประตูทองคำของเมสซี่อยู่ที่ 91 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาผลงานที่โดดเด่นที่สุดทิ้งคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น เมสซี่เป็นนักเตะระดับเอซและได้ต่อสัญญากับทีมบาร์เซโลน่า จนถึงปี 2018 อุปสรรคครั้งใหญ่ก็มาเยือนอาการบาดเจ็บคุกคามอาชีพของเขา แต่มันไม่อาจทำให้เข้านอน ดูบอลโลก เฉยๆได้จนในปี 2014 ก็คืนชีพมาในฤดูกาล 2014-15 อย่างสวยงาม ยิงแฮตทริกชนะเซบีญ่าในพฤศจิกายน

ลิโอเนล เมสซี่ เทพบุตรใจบุญและนักเตะทรงคุณค่าตลอดกาล
ทำให้เขาติดอันดับตลอดกาลผู้ทำประตูในลาลีกาเขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก เริ่มฤดูกาล 2015 เมสซี่เองทำได้ถึง 58 จาก 122 ประตูในฤดูกาล 2015-16 เขาทำประตูได้ทั้งหมด 41 ทำประตูและทำ 23 แอสซิสต์ การที่ไม่ได้เข้าร่วมทีมชาติทำให้ประเทศอาร์เจนตินาแพ้ชิลีในรอบชิงชนะเลิศของโคปาอเมริกาคู่กับCentenario เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน2016 แขวนสตั๊ดในเวลาต่อมา จนเมื่อ 12 สิงหาคม 2016 ก็มีการประกาศให้เป็นแฟนได้เฮว่าเมสซี่ได้กลับมาร่วมลงเล่น ศึกฟุตบอลโลก 2018 ให้อาร์เจนตินา
เขาได้แต่งงานและทำแฮตทริกมีลูกถึง 3 คน นอกจากเก่งแล้วเขายังใจบุญ เมสซี่ก่อตั้งลีโอเมสซี่ มูลนิธิการกุศลสนับสนุนการเข้าถึงเพื่อการศึกษาและการดูแลสุขภาพสำหรับเด็ก ในปี 2550 เมสซี่ กลายเป็นทูตสันถวไมตรีของยูนิเซฟใน 2010 เมสซี่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Ballon d’Or 5 ครั้งรวดตั้งแต่ปี 2009 – 2012 และ 2015 เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาก็ยืนหยัดและหยิบยื่นโอกาสให้กับผู้อื่นโดยไม่ลังเลสมเป็นไอดอลของวัยรุ่นยุคใหม่ “คุณต้องต่อสู้เพื่อไปให้ถึงฝัน คุณต้องเสียสละและทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสิ่งนั้น” ลิโอเนล เมสซี ยืดอกตะโกนบอกให้โลกรู้อย่างภาคภูมิใจ