Road to FIFA World Cup2022 Qatar กลุ่ม D : ทีมชาติตูนิเซีย

Share

      ทีมชาติตูนิเซียเป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทวีปแอฟริกา พวกเขาเคยคว้าแชมป์ในระดับนานาชาติมาครองแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ แชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์ปี 2004 และฟีฟ่าอาหรับคัพปี 1963 สำหรับการคว้าโควต้าตัวแทนจากทวีปเข้าไปเล่นยังฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั้นพวกเขาเคยทำสำเร็จมาแล้ว 5 ครั้งคือปี 1978, 1998, 2002, 2006 และ 2018 และสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ในปีนี้ จะเป็นครั้งที่ 6 ที่พวกเขาตีตั๋วผ่านเข้ามาเล่นยังรอบสุดท้ายได้ โดยตูนิเซียมีผลงานดีมากในรอบคัดเลือกโดยคว้าแชมป์กลุ่มบีก่อนที่จะเก็บชัยเหนือมาลีในเกมรอบคัดเลือกรอบสาม

ทีมชาติตูนิเซีย

ชื่อเต็ม:ฟุตบอลทีมชาติตูนิเซีย

ฉายา:อินทรีแห่งคาร์เธจ

บริหารงานโดย:สหพันธ์ฟุตบอลตูนิเซีย ก่อตั้ง: ปี1957

สีประจำทีม :แดงและขาว สหพันธ์: สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งแอฟริกา (CAF)

เฮดโค้ช: Nabil Maâloul

กัปตัน: ยุสเซฟ เอ็มซาคนี่

ติดทีมชาติมากที่สุด : Sadok Sassi (116นัด)

ดาวซัลโวสูงสุด : Issam Jemâa (36ประตู)

อันดับ FIFA: 30

อันดับโลกที่สูงที่สุด : 14 (เดือนเมษายน 2018)

อันดับต่ำสุด : 65 : กรกฏาคม 2010

ผลงานในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ดีที่สุด : รอบแบ่งกลุ่มในปี 1978, 1998, 2002, 2006 และ 2018

สนามเหย้า : Stade Olympique de Radès

รหัสฟีฟ่า : TUN

ทีมชาติตูนิเซีย

ผู้เล่นคนสำคัญและเฮดโค้ชของทีม

      บรรดานักเตะในทีมชาติตูนิเซียชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ส่วนใหญ่เล่นในลีกยุโรป นักเตะชื่อดังอย่าง มอนตาสซาร์ ทาลบี้ และ วาบี้ คาซรี่ เล่นในลีกเอิงฝรั่งเศสกับลิริยองต์และมงต์เปลลิเยร์ รวมไปถึงดีแลน บรอนน์จากซาแลร์นิตาน่า , เอลเยส สคิรี่จากเอฟซีโคโลญจน์ และที่ขาดไม่ได้คือยุสเซฟ เอ็มซาคนี่ กองหน้ากัปตันทีมที่ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรอัล อาราบีในลีกกาตาร์ นอกจากนี้ยังมีอีกนักเตะที่ถือว่าได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากในทีมชุดนี้ก็คือ ฮันนิบาล เมจบรี้ กองกลางวัย 19ปีของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทีมชาติตูนิเซีย

ผลงานในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก่อนหน้านี้

      หลังจากที่เคยเข้าร่วมมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้งในปี 1978, 1998, 2002, 2006 และ 2018 พวกเขาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มนี้เท่านั้น และในปีนี้พวกเขาอยูร่วมกลุ่ม D ที่มีทั้งเดนมาร์ก , ฝรั่งเศส , ออสเตรเลีย ซึ่งยังคงถือว่าเป็นงานหนักที่พวกเขาต้องพบอีกเช่นเคย

โปรแกรมลงสนาม

      เกมแรกจะพบกับเดนมาณ์กในวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน ก่อนที่จะพบกับออสเตรเลียในวันที่ 26 พฤศจิกายน และเกมสุดท้ายจะพบกับฝรั่งเศสวันที่ 30 พฤศจิกายน

Comments are closed.